ลูกเมล็ดในของผลลูกฝรั่ง จะทำให้ลำไส้คุณเป็นโรคไส้ติ่งจริงไหม?

โรคไส้ติ่งอักเสบที่คนส่วนมากชอบเรียกว่า เป็นโรคไส้ติ่ง เป็นโรคที่เกิดที่ขึ้นกับคนที่มีอายุจาก ๑๕ – ๔๕ ปี และคนอีกจำนวนหนึ่งเชื่อกันว่า การกินเมล็ดฝรั่งจะทำให้เมล็ดในเข้าไปข้างในลำไส้และทำให้เป็นโรคไส้ติ่งจริงหรือไหม?
ขนหัวลุก !! ลูกชายคนพิการถูกวัยรุ่นรุมฆ่า ออกมาพูดถึงพ่อแบบนี้ หลอนหนัก!??
ผู้เชียวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้บอกว่า ต้นเหตุที่ทำให้ไส้ติ่งอักเสบเพราะมาจากเศษอาหารที่ตกเข้าไปในลำไส้ติ่ง คือไม่จำเป็นต้องเป็นลูกเมล็ดของฝรั่งหรอก หรือเป็นเพราะมาจาก อาการของการบวมของต่อมน้ำหนองที่บริเวณนั้น หรืออาจเนื่องมาจากจำพวกกตัวพยาธิ หรือมีเนื้อ งอกทำให้ปิดรูของลำไส้ติ่ง ทำให้สิ่งที่เป็นของเหลวไม่สามารถไหลเข้า-ออกได้ จึงทำให้มีการอักเสบและติดเชื้อโรคได้ ลักษณะของโรคไส้ติ่งอักกเสบ คือการปวดท้อง ส่วนมากอาการปวดท้อง ธรรมดารทั่วไป โดยเฉพาะปวดที่บริเวณสะดือและจะเริ่มปวดไปข้างขวามือ บ้างคนมีอาการตัวร้อน แต่ไม่เกิน ๓๙ องศา
และส่วนมากอีกคนไข้จะมีอาการเบื่ออาหารไม่อยากินอาหารและบ้างกรณีที่มีอาการหนักคือคลื่นไส้จะอ้วก ถ่ายอจจาระมาไม่แข็ง
ในกรณีที่ไม่ได้รับการรักษาเร็วๆ อาการของโรคนี้จะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยความร้อนจะเกินขึ้น ถึง ๓๙ องศา และนอกจากนั้น คนไข้จะมีการปวดท้องทั้งสองข้าง (ด้านซายและด้านขวา) เป็นเพราะ เนื่องมาจากอาการไส้ติ่นนั้นติดเชื้อการเน่าหรือมีการขาดด้วย อยู่ที่ประเด็นหลายอย่างเช่น สถานภาพของคนไข้ อายุของโรคไส้ติ่น รวมกับการกินยารักษาเป็นต้น สำหรับการรักษาโรคไส้ติ่น วิธีที่เขานิยมใช้กันคือ การผ่าตัดด้วยการใช้ยาช้าหรือยาสลบด้วยการผ่า เปิดหน้ากว้างประมาณ ๓ เซ็นติเมตร-๔ เซ็นติเมตรบนหน้าท้องด้านขวาแล้วผ่าตัดเอาไส้ติ่นออก แล้วก็ทำการเย็บเป็นการเสร็จสิ้