เวลางูมีพิษกัดควรทำอย่างไร ?

พิษของงูมีลักษณะไม่เหมือนกันโดยบ้างตัวมีพิษแรงและอีกบ้างตัวก็จะมีพิษน้อย ถ้าคุณเคยถูกงูกัด คุณต้องไปหาหมอทันที งูที่มีพิษกัดก็จะมีลักษณะสองจุดเล็กๆที่ต้องสังเกตดู ซึ่งอยู่หางกันประมาณ ๒ถึง๑๐มีลิเมตร บ้างครั้งงูที่ได้กัดนั้นมันยังไม่ได้พนพิษของมันเลยโดยเพียงแค่ให้ มีร่องรอยที่มันกัดเท่านั้น ลักษณะของโรค จะบ่งบอกว่า ถูกงูมีพิษกัดมีอย่างเช่น บวม ชา เจ็บ และขึ้นแดงกับที่ คืนอยู่กับสุขภาพทั่วไปของคนไข้ อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
เป็นเรื่องตรงกันข้ามกับความเชื่อที่ชอบทำนั้นคือว่า คุณจะไม่ใช้ปากดูดเอาพิษของงูที่ได้กัดนั้น เพราะมันอาจจะซึ่มเข้าไปในเลือดของคุณได้ ถึงว่าในปากของคุณจะมีรอยแผลเล็กน้อยก็ตาม
สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำนั้น คือต้องใช้มีดมาเล็มตรงจุดที่ถูกงูกัดนั้นออกเพื่อเป็นการเพิ่มการขยายเชื้อของพิษยิ่งดี หลังจากนั้น ตรงจุดที่ถูกงูกัดนั้นจะต้องทำการพยาบาลโดยแน้นการอุ่นกับน้ำร้อน แล้วคนไข้ต้องกินน้ำให้ได้เยอะๆ
เครื่องดื่มอย่างเช่น กาแฟ น้ำชา หรือเครื่องดื่มบำรุง ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวใหญ่และก็สะดวกให้สารของพิษเข้าไปในกระแสเลือดได้ง่าย คนไข้ไม่ต้องมีความกังวลหรือกลัวหรือพยายามวิ่ง เพราะมันอาจทำให้สารของพิษซาบซึ่มไปทั่วรางกายได้ ในจุดที่ถูกงูกัดควรจะไม่ต้องมีการขยับ แล้วก็หาเชือกมาพันธ์รัดด้วย โดยเฉพาะในขณะที่อยู่ในป่าที่เดียว สำหรับการพันธ์รักนั้นต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะมันอาจทำให้บาดแผลยิ่งขยายไปใหญ่กว่าเดิม และความประสงค์ที่ทำอย่างนี้ คือเพื่อเป็นการลดบันเท่า การไหลซึ่มของพิษไปทั่วราง ถึงอย่างไรก็ตามหลังจากที่ถูกงูกัดแล้ว คนไข้จะต้องทำการส่งไปโรงพยาบาลทันทีเพื่อทำการรักษาให้ถูกวิธี