(7 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ได้เดินทางมาที่บ้าน นายจุฬา อายุ 60 ปี บ้านหลังหนึ่ง ม.7 ต.ท่าคล้อ อ. แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเป็นบ้านลุงของนายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอครูอิ๋ว
นาย จุฬา เล่าให้ฟังว่า ตนพักอยู่ที่บ้านกับผู้เป็นแม่คือ นางจัน อายุ 62 ปี ต่อมานางอุบล ซึ่งเป็นน้องสาวได้กลับมาอาศัยร่วมที่บ้าน พร้อมมีลูกชายติดมาด้วยคือนายชาตรี จนกระทั่งนายชาตรี เรียนหนังสือถึงชั้น ป.1 นางอุบลรัตน์ ก็ได้ย้ายออกไปทำงานต่างจังหวัด โดยทิ้งลูกชายให้อยู่กับตนและแม่ที่บ้าน
หลัง จากนั้น 4 ปี แม่ของตนได้เสียชีวิตลง ตนจึงเลี้ยงดูนายชาตรีเพียงลำพัง จนกระทั่งนายชาตรีจบชั้น ป.6 นางอุบลรัตน์ได้กลับมาที่บ้าน พานายชาตรีไปทำงานด้วยที่ จ.ลพบุรี ไม่นานก็พากลับมาให้ตนเลี้ยงอีกครั้ง
ส่วน นิสัยนายชายตรีตอนเป็นเด็กอยู่นั้น มีอัธยาศัยดี เคารพนอบน้อม ถูกตำหนิก็ไม่แสดงอาการให้เห็น แต่จะเดินหนีไป จนกระทั่งอายุ 21 ปี เข้ารับราชการทหารภายในจังหวัดสระบุรี จนกระทั่งปลดประจำการก็กลับมาทำงานที่บ้าน โดยมีแฟนสาวติดตามมาอยู่ที่บ้านด้วย ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนั้นนายชาตรีและแฟนสาวมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ละครั้งนายชาตรีลงมือทำร้ายแฟนสาวอย่างรุนแรง
จน ครั้งล่าสุด ตนจึงได้เข้าไปห้าม แต่ก็ถูกนายชาตรีโยนข้าวของใส่ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายตน จนสุดท้ายทราบว่าแฟนสาวทนไม่ไหวได้หนีออกจากบ้านไป จากนั้นนายชาตรีก็ไปทำงานปกติ จนมาพบกับสาวประเภทสองชื่อนายอาร์ม และย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ที่หอพักที่เกิดเหตุดังกล่าว
ล่า สุด ในวันเกิดเหตุตนเห็นนายชาตรี กลับเข้ามาที่บ้านบอกกับตนว่า "มาเอาเสื้อผ้าให้แม่" แล้วเดินออกไป จากนั้นตนได้เดินออกไปที่ตลาด มีแม่ค้าถามว่าได้พบนายชาตรีไหม ตนจึงตอบว่า "พบแล้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร" แม่ค้าจึงบอกกับตนว่า "นายชาตรีแวะมาซื้อที่ปิดแผล" หลังจากนั้นตนก็กลับบ้าน จนกระทั่งมีตำรวจมาบอกว่านายชาตรีฆ่าคนตาย
ขณะ เดียวกันทางด้านเรือนจำ นายชาลี แจ่มแสง รักษาการ ผ.บ.เรือนจำจังหวัดสระบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการฝากขัง นายชาตรีมีอาการเครียดน้อยลงจากวันแรก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางเรือนจำได้จัดรักษาความปลอดภัยโดยแยกนายชาตรีขัง แดน 1 ห้องพิเศษ ร่วมกับนักโทษชั้นดี อีก 7 คน
ภาย ในห้องมีกล้องวงจรปิดตลอด 12 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจความเรียบร้อยทุก 20 นาที ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ให้ทานอาหารร่วมกับนักโทษชั้นดี แดน 1 ห้องพิเศษ เพราะเกรงว่าถ้าออกมาทานร่วมกับนักโทษคนอื่นจะได้รับอันตราย
นาย ชาลี เผยต่ออีกว่า เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) เวลา 13.00น. ตนรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ผู้คุมว่า ได้มีนางอุบลรัตน์ มารดานายชาตรี เข้าเยี่ยมอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมได้ฝากเงินจำนวนหนึ่ง และของใช้จำเป็นให้นายชาตรี แล้วฝากบอกผู้คุมว่า "ฝากดูแลลูกชายด้วย กลัวว่าจะถูกนักโทษคนอื่นทำร้าย" จากนั้นนางอุบลรัตน์เดินทางกลับบ้านโดยไม่พบนายชาตรี
ทั้ง นี้ ได้มีป้ายตั้งติดแสดงคำไว้อาลัยครูอิ๋ว ที่บริเวณริมถนนสุดบรรทัด ข้างข้ามทางรถไฟ เป็นป้ายภาพสีขาวดำ ยาว 5 เมตร กว่าง 3 เมตร โดยมีข้อความเขียน ว่า "ขอร่วมน้อมจิตรอุทิศกุศลตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน ให้ดวงวิญญาณของคุณครูจุฬารัตน์ สถิต ณ ภพภูมิอันสงบชั่วนิรันดร์ จะอยู่ในดวงใจของทุกคนตลอดไป ผู้บริหารคณะครูผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแสงวิทยาและชาวอำเภอแก่งคอย" ซึ่งคณะที่ป้ายติดตั้งอยู่ได้มีประชาชนผ่านมาและบางคนได้แวะมาใช้โทรศัพท์ มือถือถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
ที่มา : สยามอัพเดท
นาย จุฬา เล่าให้ฟังว่า ตนพักอยู่ที่บ้านกับผู้เป็นแม่คือ นางจัน อายุ 62 ปี ต่อมานางอุบล ซึ่งเป็นน้องสาวได้กลับมาอาศัยร่วมที่บ้าน พร้อมมีลูกชายติดมาด้วยคือนายชาตรี จนกระทั่งนายชาตรี เรียนหนังสือถึงชั้น ป.1 นางอุบลรัตน์ ก็ได้ย้ายออกไปทำงานต่างจังหวัด โดยทิ้งลูกชายให้อยู่กับตนและแม่ที่บ้าน
หลัง จากนั้น 4 ปี แม่ของตนได้เสียชีวิตลง ตนจึงเลี้ยงดูนายชาตรีเพียงลำพัง จนกระทั่งนายชาตรีจบชั้น ป.6 นางอุบลรัตน์ได้กลับมาที่บ้าน พานายชาตรีไปทำงานด้วยที่ จ.ลพบุรี ไม่นานก็พากลับมาให้ตนเลี้ยงอีกครั้ง
ส่วน นิสัยนายชายตรีตอนเป็นเด็กอยู่นั้น มีอัธยาศัยดี เคารพนอบน้อม ถูกตำหนิก็ไม่แสดงอาการให้เห็น แต่จะเดินหนีไป จนกระทั่งอายุ 21 ปี เข้ารับราชการทหารภายในจังหวัดสระบุรี จนกระทั่งปลดประจำการก็กลับมาทำงานที่บ้าน โดยมีแฟนสาวติดตามมาอยู่ที่บ้านด้วย ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนั้นนายชาตรีและแฟนสาวมีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ละครั้งนายชาตรีลงมือทำร้ายแฟนสาวอย่างรุนแรง
จน ครั้งล่าสุด ตนจึงได้เข้าไปห้าม แต่ก็ถูกนายชาตรีโยนข้าวของใส่ แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายตน จนสุดท้ายทราบว่าแฟนสาวทนไม่ไหวได้หนีออกจากบ้านไป จากนั้นนายชาตรีก็ไปทำงานปกติ จนมาพบกับสาวประเภทสองชื่อนายอาร์ม และย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน ที่หอพักที่เกิดเหตุดังกล่าว
ล่า สุด ในวันเกิดเหตุตนเห็นนายชาตรี กลับเข้ามาที่บ้านบอกกับตนว่า "มาเอาเสื้อผ้าให้แม่" แล้วเดินออกไป จากนั้นตนได้เดินออกไปที่ตลาด มีแม่ค้าถามว่าได้พบนายชาตรีไหม ตนจึงตอบว่า "พบแล้ว แต่ไม่ได้พูดอะไร" แม่ค้าจึงบอกกับตนว่า "นายชาตรีแวะมาซื้อที่ปิดแผล" หลังจากนั้นตนก็กลับบ้าน จนกระทั่งมีตำรวจมาบอกว่านายชาตรีฆ่าคนตาย
ขณะ เดียวกันทางด้านเรือนจำ นายชาลี แจ่มแสง รักษาการ ผ.บ.เรือนจำจังหวัดสระบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 ของการฝากขัง นายชาตรีมีอาการเครียดน้อยลงจากวันแรก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางเรือนจำได้จัดรักษาความปลอดภัยโดยแยกนายชาตรีขัง แดน 1 ห้องพิเศษ ร่วมกับนักโทษชั้นดี อีก 7 คน
ภาย ในห้องมีกล้องวงจรปิดตลอด 12 ชั่วโมง และมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจความเรียบร้อยทุก 20 นาที ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ให้ทานอาหารร่วมกับนักโทษชั้นดี แดน 1 ห้องพิเศษ เพราะเกรงว่าถ้าออกมาทานร่วมกับนักโทษคนอื่นจะได้รับอันตราย
นาย ชาลี เผยต่ออีกว่า เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) เวลา 13.00น. ตนรับรายงานจากเจ้าหน้าที่ผู้คุมว่า ได้มีนางอุบลรัตน์ มารดานายชาตรี เข้าเยี่ยมอย่างไม่เป็นทางการ พร้อมได้ฝากเงินจำนวนหนึ่ง และของใช้จำเป็นให้นายชาตรี แล้วฝากบอกผู้คุมว่า "ฝากดูแลลูกชายด้วย กลัวว่าจะถูกนักโทษคนอื่นทำร้าย" จากนั้นนางอุบลรัตน์เดินทางกลับบ้านโดยไม่พบนายชาตรี
ทั้ง นี้ ได้มีป้ายตั้งติดแสดงคำไว้อาลัยครูอิ๋ว ที่บริเวณริมถนนสุดบรรทัด ข้างข้ามทางรถไฟ เป็นป้ายภาพสีขาวดำ ยาว 5 เมตร กว่าง 3 เมตร โดยมีข้อความเขียน ว่า "ขอร่วมน้อมจิตรอุทิศกุศลตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน ให้ดวงวิญญาณของคุณครูจุฬารัตน์ สถิต ณ ภพภูมิอันสงบชั่วนิรันดร์ จะอยู่ในดวงใจของทุกคนตลอดไป ผู้บริหารคณะครูผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนแสงวิทยาและชาวอำเภอแก่งคอย" ซึ่งคณะที่ป้ายติดตั้งอยู่ได้มีประชาชนผ่านมาและบางคนได้แวะมาใช้โทรศัพท์ มือถือถ่ายไว้เป็นที่ระลึก
ที่มา : สยามอัพเดท
เอาแล้ว !! ลุงเผยปมชีวิต ชาตรี ฆ่าข่มขืนครูสาว จนหมดเปลือกว่าแบบนี้ รู้เลยว่าเลวแค่ไหน !??
4/
5
Oleh
Unknown
Note: Only a member of this blog may post a comment.