Tuesday, August 2, 2016

รวยแน่ๆ !! พจน์ อานนท์ จัดเต็มตามน้องน้ำเต้า เด็กปั้ม โดนเหยียด มาทำแบบนี้ ตามรอย เทพพิทักษ์ !??


กลายเป็นเรื่องดังมากๆเรื่องของน้อง น้ำเต้า เด็กปั้ม ที่มีรูปร่างท้วมอ้วนเป็นคนเจ้าเนื้อแต่กลับโดนข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตคน หนึ่งแอบถ่ายรูปขณะนั่งก้มหน้าในปั้มแล้วเอาไปโพสประจานออกโซเซียลว่า เก็บตกซุปตาร์ ..พี่ไปเจอของแปลก สัตว์หายาก ..เพราะทำงานเป็นกะ ..คนหยังมาขี้ฮ้ายแท้ มะช่างกล้าเกิด คนอะไรเกิดมาขี้เหร่ ทำไมช่างกล้าเกิดจนกลายเป็นเรื่องดราม่าทั่วประเทศกับการดูถูกเหยียดหยามคน อ้วน


ล่าสุดผู้กำกับหนัง พจน์ อานนท์ ได้โพสผ่านไอจีส่วนตัวปลอบใจน้อง น้ำเต้า พร้อมทาบ น้องน้ำเต้า มาเล่นหนังโดยมีใจความว่าเอาน่าอย่าไปเสียใจน้องคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่ เลือกที่จะทำดีได้ สนใจมาเล่นหนังมั้ยน้องลองมาแคสดูมั้ยว่าเล่นได้ป่าว ถ้าเล่นได้เดียวเอาเล่นเลย อย่าดูถูกคนที่รูปร่างหน้าตาต้องดูที่จิตใจ ถ้าหนูมีรูปที่เห็นหน้าชัดๆ ส่งมาในข้อความหาพี่หน่อยกำลังหาดาราหน้าใหม่พอดี ด้านผู้กำกับมือดี อย่าง พจน์ อานนท์ เคยชักชวน เทพพิทักษ์ แอสละ เข้ามาเล่นหนังหลังจากตกเป็นข่าวดังในโซเซียลจากคลิประบายหาแฟนที่เขาทำ เล่นๆขึ้นมาปรากฏว่ามีการแชร์เยอะมากจนกลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์และมีงานใน วงการบันเทิงเพียบ เช่นกันคราวนี้ พจน์ อานนท์ เห็นใจและสงสารน้อง น้ำเต้า มากและมองว่าน่าจะมีแววจึงสนใจให้โอกาสมาลองเล่นหนัง


ที่มา : สยามอัพเดท

พ่อผัววัย 56 เอาลูกสะใภ้วัย 19 เป็นเมีย วางแผนกับลูกสะใภ้เพื่อทำสิ่งนี้ เห็นแล้วอนาถใจจริงๆ !???


เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 59 พ.ต.ท.ประยุทธ ลายเมฆ สว.สอบสวน สภ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ว่ามีผู้พบศพที่บริเวณกระท่อมนาท้ายใน ต.ฝั่งแดง อ.นากลาง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แจ้งแพทย์เวรและพิสูจน์หลักฐาน กู้ภัยนเรศวร ออกตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระท่อมนา มีวัวพันธุ์อยู่ในคอกห้าตัว ห่างกระท่อมนาไปเล็กน้อย พบศพ นายทิว (นามสมมติ) อายุ 62 ปี สภาพศพนอนหงาย มีรอยไหม้ตามลำตัวเสื้อผ้า มีร่องรอยถูกอาวุธมีคมแทงตามลำตัวและที่คอหลายแผล เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง

จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ตายไม่มีครอบครัว มักจะมานอนที่กระท่อมนาเพื่อนอนเฝ้าวัวพันธุ์ของผู้ตาย และปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้าน เป็นคนนิสัยดี ไม่มีศัตรูกับใคร จากนั้นได้สอบถาม นายทูล (นามสมมติ) อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก และเป็นน้องชายของผู้ตาย ให้การว่าได้แต่งตัวเพื่อเตรียมไปประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้มาแวะหาผู้ตายที่กระท่อมนา พบผู้ตายนอนเสียชีวิตแล้วจึงได้แจ้งให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและกำนันทราบ


ทั้งนี้ ต่อมาชุดสืบสวน สภ.นากลาง พบว่า นายทูล น้องชายผู้ตายมีท่าทีพิรุธ ให้การวกไปวนมา และยังพบว่าหลังจากลูกชายได้เสียชีวิต ก็ได้ลูกสะใภ้มาเป็นภรรยาใหม่ จึงได้ควบคุมตัวไปเค้นสอบสวนจนเปิดปากรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับ นางสาวเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 19 ปี วางแผนฆ่า นายทิว พี่ชายตนเองจริง เนื่องจากทนรบเร้าจากนางสาวเอ็ม ที่ต้องการฆ่าพี่ชายตนเพื่อหวังมรดก และทรัพย์สินของพี่ชายไม่ไหว

นายทูล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนกับนางสาวเอ็ม ไปที่กระท่อมนาของพี่ชาย พร้อมอาวุธมีด เมื่อไปถึง นางสาวเอ็ม ได้ถือมีดไปหาผู้ตายซึ่งนอนอยู่ โดยตนยืนรออยู่ในที่มืด ต่อมาสักครู่ ได้ยินเสียงนางสาวเอ็มร้องให้ช่วย ตนจึงได้วิ่งเข้าไปพบว่าทั้งคู่กำลังยื้อแย่งอาวุธมีดกันอยู่ ตนจึงได้กระโดดถีบผู้ตายจนล้มลงแล้วใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงผู้ตายจนเสียชีวิต จากนั้น พบว่านางสาวเอ็มได้รับบาดเจ็บถูกคมมีดที่นิ้วมือ ตนจึงได้พาไปโรงพยาบาลเพื่อเย็บแผล จากนั้นนางสาวเอ็มบอกให้ตนแวะซื้อน้ำมันเพื่อนำไปเผาร่างผู้ตาย เนื่องจากเกรงว่าจะมีรอยนิ้วมือติดตามเสื้อผ้าลำตัวผู้ตาย ตนจึงได้ซื้อน้ำมันไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมกับนำเสื้อผ้าผู้ตายมาชุบน้ำมันแล้วคลุมร่างผู้ตายจุดไฟเผา และตนนำอาวุธมีดไปทิ้งลงลำห้วย ก่อนจะกลับบ้านไปนอน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว นายทูล ไปที่บ้าน พบนางสาวเอ็มอยู่ที่บ้าน จึงได้ควบคุมตัวไว้และพบว่าที่นิ้วชี้และนิ้วกลาง มีรอยเย็บจริง และ นางสาวเอ็ม รับว่าได้ร่วมมือกับนายทูล พ่อสามี ซึ่งปัจจุบันได้เป็นสามีตน ฆ่า นายทิวจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่บุคคลทั้งสองใส่ก่อเหตุ ซึ่งพบว่ายังมีคราบเลือดและกลิ่นน้ำมันติดอยู่ ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุจะได้ดำเนินการตามหาต่อไป หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนไป สภ.นากลาง ดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ต่อไป

ที่มา : สยามอัพเดท

Monday, August 1, 2016

เลิกอีกแล้ว !! ปีใหม่กัลป๋าต๊อบ ทำสะเทือนทั้งวงการอีกครั้ง เมื่อเปิดอก ว่าเกือบตายเพราะสิ่งนี้ !??


กลายเป็นเรื่องน่ากลัว เพราทั้งคู่หายหน้าไปนานหลายปีพร้อมกับกระแสข่าวลือต่างๆ นานาเกี่ยวกับชีวิตคู่ ถึงขนาดถูกเม้าท์มอยว่าเหมือนตกนรกทั้งเป็นเพราะพิษสิ่งเสพติด สำหรับคู่รักมาราธอนอย่าง ป๋าต๊อบ ปฏิญญา ควรตระกูล และ ปีใหม่ สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารันต์ ล่าสุดทั้งคู่ก็ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกในรายการ สน.สตรอว์เบอร์รี่ โดยยอมรับว่า เคยหลงผิดเสพติดของมึนเมาอยู่นานหลายปีถึงขนาดเกือบเอาชีวิตไม่รอด หนำซ้ำชีวิตคู่ยังมีปัญหาทะเลาะกันทุกวันจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่เมื่อผ่านมาได้ก็สัญญากับพ่อแม่และตัวเองว่าจะไม่มีวันกลับไปทำอีกเด็ดขาดเพราะรู้เลยว่าชีวิตมีค่ามากๆ ถ้ากลับไปอีกตายแน่ๆ

ที่ผ่านมาเจอกับมรสุมชีวิต ?
ป๋าต๊อบ – ทุกคนก็มีมรสุมชีวิตกันทั้งนั้น แต่ของเราตอนนั้นมันดูหนักหนา เพราะมุมมองทัศนาคติของเราในการมองโลกมันดูแย่ แต่พอมองย้อนกลับไปนั่นคือบทเรียนที่ดีมาก เราได้รู้เลยว่าความไร้สติคืออะไร ซึ่งตอนนั้นมันคือความผิดพลาดอย่างเดียว และเราไปจมกับสิ่งนั้น แถมยังใช้วิธีการแก้ไขโดยการโทษคนอื่น ไม่เคยโทษตัวเอง

กับข่าวที่ก่อนหน้านี้บอกว่าเราติดสิ่งเสพติดและสิ่งมึนเมา ?
ป๋าต๊อบ – ยอมรับว่าเป็นส่วนใหญ่ คือเรานึกว่าชีวิตตรงนั้นเป็นคำตอบ คิดว่าชีวิตเป็นเหมือนในโฆษณาเบียร์ ที่จะมีแต่ความสนุกความสุขอยู่อย่างเดียว จนลืมคิดไปว่าที่เราเห็นในโฆษณาความสุขมันมีแค่หนึ่งนาที ในขณะที่ชีวิตคนจริงๆ มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ และสิ่งนี้แหละที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่ไม่น่ารักกับคนอื่น

ที่บอกว่าเสพติด คือเราติดกันทั้งสองคนเลยใช่หรือเปล่า ?
ป๋าต๊อบ – ก็ทั้งคู่ พอกันทั้งคู่เลย

ปีใหม่ – ถามว่าติดหนักขนาดไหน คือตอนนั้นต้องบอกว่าการที่เราทะเลาะกัน และพาชีวิตไปในทางที่ไม่ดี คือเราเคยคิดว่าสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำกัน ซึ่งความจริงมันผิด และมันก็เป็นเพียงแค่ความคิดเราเท่านั้นเองที่ไม่โคยโทษสิ่งมึนเมาเลย ซึ่งเราก็แก้ปัญหานี้กับตัวเอง แต่ยิ่งแก้มันก็ยิ่งทุกข์ และทำให้เราติดมันมากขึ้น เคยคิดนะคะว่าสิ่งมึนมันพวกนั้นทำให้เราสุขได้ ลืมความทุกข์ได้ ซึ่งความเข้าใจผิดตอนนั้นมันยิ่งทำให้เราถลำลึกลงไป เราสองคนเคยบอกเลิกกันไปตั้งหลายครั้ง

ป๋าต๊อบ – บางวันเลิกกันกระเป๋าที่แพ็คไว้เพราะคิดว่าจะย้ายออกไปก็ยังไม่ทันได้ย้ายเราก็เลิกกันอีก คือมันบ่อยมาก แล้วเรารู้เลยว่าเวลานั้นเราเป็นคนที่พูดจาไม่ดีกับคนอื่นๆ ถามว่าตอนนั้นเราติดหรือเปล่า บอกเลยว่า อะไรก็แล้วแต่ที่เราใช้เปลี่ยนความรู้สึกตัวเอง เราก็ติดกันทั้งนั้นแหละ ซึ่งนั่นคือการใช้ที่ผิดจุดประสงค์ แถมมันยังยิ่งทำให้เราหมกมุ่น จนมันสำคัญมากกว่าชีวิตตัวเอง



ในข่าวบอกว่าสิ่งที่เราติดมีมากกว่าเหล้าเบียร์ จริงๆ แล้วรวมถึงสิ่งเสพติดอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า ?
ป๋าต๊อบ – ทุกอย่าง อะไรที่เขาบอกว่าเมาเราเอาหมด และไม่เคยถามว่าผลกระทบที่ตามมาจะเป็นยังไง เพราะเราไม่เคยคิดว่ามันจะไปทำร้ายใคร เราทำร้ายแค่ตัวเอง และก็ไม่เคยคิดเลยนะว่าชีวิตที่พ่อแม่ให้มาเป็นของขวัญอันล้ำค่า เราทิ้งสิ่งเหล่านั้นไปทั้งหมดเพื่อต้องการที่จะได้อะไรสักอย่างมา และมันคืออะไรก็ไม่รู้ คือมันเป็นความงมงายมากๆ


ปีใหม่ – อะไรที่เขาบอกว่าใช้แล้วเท่ห์ ใช้แล้วเข้าสังคมได้ ใช้แล้วเพิ่มความมั่นใจเราก็ใช้ด้วยกันทั้งหมด แต่ในตอนนี้ยืนยันว่าเลิกหมดทุกอย่างแล้ว

จุดเปลี่ยนในชีวิตคืออะไร ?
ป๋าต๊อบ – ก็เพราะเกือบตายไง อีกแค่นิดเดียวก็ตายแล้ว พี่เชื่อว่าถ้า ณ ตอนนั้นยังไม่ได้เดินออกมาจากตรงนั้น คงตายไปแล้ว พ่อแม่คงได้ฝังศพพี่ไปแล้ว เพราะพี่เคยช็อคด้วยความที่เราใช้จนเกินขนาด และพอตื่นมาจากนั้นก็สาบานกับพ่อแม่ กราบเท้าท่านเพื่อขอเริ่มต้นชีวตใหม่ ถามว่าตอนนี้เลิกได้นานหรือยัง อีกหนึ่งเดือนกับเจ็ดวันก็จะครบหกปีที่เลิกทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมึนเมา สิ่งเสพติด อะไรต่างๆ ที่มันเปลี่ยนอารมณ์ เปลี่ยนความคิด รวมถึงยังมีโอกาสได้เข้าสถานบำบัดหาคนช่วยเหลือที่เขาเคยมีประสบการณ์อย่างที่พี่เป็น เพื่อขอความช่วยเหลือจากพวกเขา



ปีใหม่ – สำหรับปีใหม่เองก็เริ่มจากการที่พี่ต๊อบบอกว่า การที่ชีวิตเราแย่เป็นเพราะสิ่งมึนเมาเหล่านั้น ตอนแรกใหม่คิดว่าเขาจะหาเรื่องทิ้งใหม่ไป เพราะเขาขอที่จะออกไปบำบัดโดยการออกจากบ้าน จนสักพักหนึ่งเขาก็ติดต่อกับมาบอกกับเราว่าเขากำลังพยายามเลิกสิ่งเหล่านี้อยู่ และตั้งแต่ใหม่ออกจากบ้านเขามา ใหม่ก็เลิกทุกอย่างเพราะสภาพตัวเองตอนนั้นแย่มาก ซึ่งในการบำบัดใหม่ไม่ได้เข้าบำบัด แต่ใหม่ก็จะทำตามที่พี่ต๊อบบอกให้ทำ และมันก็ได้ผล

หลังจากนั้นชีวิตดีขึ้นเลยเหรือเปล่า ?
ป๋าต๊อบ –การเปลี่ยนทัศนคติคนมันไม่ได้เปลี่ยนได้ภายในวันเดียว แต่เราต้องกลับไปเปลี่ยนความเชื่อที่เราเคยมีต่อสิ่งเหล่านั้นซึ่งมันไม่จริง และมันก็ไม่ดีกับตัวเองด้วย

พอเราได้บอกลากับสิ่งเหล่านั้นแล้ว เราเลิกทะเลาะกัน เลิกบอกเลิกกันแล้วใช่ไหม ?
ป๋าต๊อบ – หลังจากนั้นก็ไม่เคยทะเลาะกันแล้วใช้คำพูดเชือดเฉือนกันเพื่อที่จะตั้งใจทำร้ายกัน อาจจะมีทะเลาะกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่พอได้คุยกันเราก็จะเข้าใจ ที่สำคัญคือถ้าเมื่อไหร่เรารับปากเขาว่าจะทำอย่างใดอย่างหนึ่ง คำพูดสำคัญที่สุด พี่คิดว่าคงเป็นบุญของพ่อแม่พี่ รวมถึงคนที่เรารักส่งมาให้พี่ด้วย จนทำให้เราสามารถก้าวผ่านจากจุดนั้นได้ จากนี้ไปเราต้องรู้จักรักตัวเองให้เป็นนั่นแหละคือสิ่งที่มันสำคัญที่สุด

ปีใหม่ – พอเราผ่านจากจุดนั้นได้เรื่องสุขภาพต่างๆ เราก็ดีขึ้น ถือว่าเราโชคดีมากสำหรับคนที่ใช้ร่างกายมาหนักหน่วงขนาดนี้ และพอตรวจแล้วยังไม่เจออะไรเลยด้วย

ความรักของเราสองคนตอนนี้กี่ปีแล้ว ?
ป๋าต๊อบ – เอาที่เรานับได้นะก็ประมาณเจ็ดปี ที่ผ่านมามันก็มีหลายเรื่อง มีทั้งคนบอกว่าคู่เราอาจจะไปกันไม่รอดตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่คบกัน ซึ่งเราก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน ถามว่าอะไรที่ทำให้เราสองคนฝ่าฝันกันมาถึงขนาดนี้ สำหรับพี่ พี่รู้แต่ว่าไม่มีอะไรที่มันแตกหัก ทุกอย่างสามารถซ่อมแซมได้

ปีใหม่ – คงเป็นเพราะสิ่งที่พี่ต๊อบพยายามทำ ทั้งการเปลี่ยนชีวิตทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิตคู่ของเรา และการที่เขาพิสูจน์ให้ใหม่เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้ดีกับชีวิตคู่ของเรา ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากเพราะชีวิตเขาเคยอยู่กับสิ่งเหล่านั้นมากนาน และการที่จะเลิกขาดจากสิ่งเหล่านั้นสำหรับเขามันก็ต้องยากกว่าปกติอยู่แล้ว ใหม่คิดว่ามันคุ้มมากที่จะใช้ชีวิตคู่ไปกับเขา

ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าเราสองคนอยากจะมีลูกด้วยกัน ?
ป๋าต๊อบ ณ ตอนนี้ไม่คิดว่าจะมี แต่ก่อนหน้านี้เคย เคยคิดเหมือนกัน แต่พอมองว่าถ้าให้ใหม่เป็นคนอุ้มท้องฝ่ายเดียวมันคงไม่ใช่ คือเรื่องแบบนี้มันต้องถามความคิดของเขาด้วย เราอยากใช้ชีวิตคู่ให้มันเต็มที่ และการอยู่กันสองคนมันอาจจะทำให้เราทำอะไรต่างๆ ได้สบายใจมากกว่า

ปีใหม่ – ตัวใหม่เองมีน้องอยู่สองคนที่อายุห่างกันมากจนเหมือนลูกได้เลย เพราะเราเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เล็กๆ และตอนนี้ก็ยังคงต้องเลี้ยงอยู่ เรื่องลูกคงคิดว่าพอก่อนดีกว่าค่ะ อยู่กันสองคนก็มีความสุขดีแล้ว ถามถึงความเจ้าชู้ของพี่ต๊อบยังมีอยู่ไหม เท่าที่ใหม่เห็นก็ไม่มีแล้วนะ แต่ถ้าใครเห็นก็แท็กมาบอกปีใหม่ได้นะคะ

ป๋าต๊อบ – เดี๋ยวนี้เรารู้จักคำว่าซื่อสัตย์ต่อตัวเองคืออะไร เพราะที่ผ่านมามันไม่สนุกแล้วที่จะกลับมาเล่นเกมส์อะไรแบบนี้ มันอาจจะดูไม่น่านับถืออีกต่อไปก็ได้


ที่มา : สยามอัพเดท

Wednesday, July 27, 2016

ใจสลายทั้งกรม !! หลานพลทหารที่เสียชีวิต บอกคนฟ้องโดนหนักแบบนี้ สุดท้ายคนทำขึ้นเป็นผู้พันใหญ่โตแล้ว !!?


จากกรณี น.ส.นริศราวัลถ์ หลานสาวของ พลทหารวิเชียร เผือกสม ที่เสียชีวิตระหว่างฝึกซ้อมทหารใหม่ในค่ายทหาร จ.นราธิวาส ถูกจับกุมไปยัง สน.มักกะสัน เบื้องต้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งหมายจับกุมด้วยฐานความผิดหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ทหาร และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จากกรณีการโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับการซ้อมทรมาน พลทหารวิเชียร ลงในโซเชียลมีเดีย โดยโพสต์ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

น.ส.นริศ ราวัลถ์ ได้ปฏิเสธทุุกข้อกล่าวหา ต้องการสู้คดีในชั้นศาลต่อไป พร้อมยืนยันว่าไม่ได้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท หรือโกหกแต่อย่างใด มีแต่ข้อเท็จจริงที่บอกเล่าในโซเชียลฯ เป็นเรื่องที่เกิดในขั้นตอนการเรียกร้องความยุติธรรมให้น้าชาย



ที่มา : สยามอัพเดท

Tuesday, July 26, 2016

สยองทั้งเมือง !! หนุ่มคลั่งปีนเสาไฟฟ้าประท้วง แต่ดันพราดเจอแบบนี้ ต่อหน้าคนนับพัน !??


กลายเป็นคลิปสุดสยองที่เกิดขึ้นกลางเมือง เมื่อมีกล้องนักข่าวรายหนึ่ง จับภาพผู้ประท้วงชายที่ถอดเสื้อปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้า เพื่อร่วมประท้วงประธานาธิปดีบราซิล แต่ด้วยความคึกคะนองเกินเหตุ หนุ่มคนนี้เลยพยายามปีนให้สูงขึ้นไปอีก แต่เกิดพลาดไปจับโดนสายไฟฟ้าเข้า ทำให้โดนช็อตร่วงลงมาเสียชีวิตทันที


ที่มา : สยามอัพเดท

น้ำตาไหลพราก!! ทั้งชีวิตอุทิศตัวให้แฟนคนเดียว แต่เมื่อไปหาหมอ กลับพบความจริงสุดช้ำ อุทาหรณ์สอนหญิงจริงๆ


วันนี้ สยามดราม่านำเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอติดโรคร้าย มาฟังเรื่องราวของเธอกัน
เรา อยากจะ ย้ำกับผู้หญิงทุกคนอีกครั้ง หลังจากได้ไปคุยกับ “มล” ผู้หญิงสวย เก่ง เธอเรียนจบด็อกเตอร์ มีชีวิตที่พร้อมทุกด้าน ตลอดชีวิตมลมีแฟนคนเดียว และวันนี้เขาก็คือสามีของเธอ หลังแต่งงานได้เกือบ 10 ปี มลถึงได้รู้ว่าตัวเองได้รับเชื้อ HPV ที่อาจพัฒนาจนกลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ทั้งที่เธอไม่มีความเสี่ยงอะไรสักนิดเดียว
คุณก็ติดเชื้อ HPV ได้ถ้า…
ขาไม่ได้มีเซ็กซ์กับคุณคนเดียว
เขาเที่ยวผู้หญิง
เขามีเซ็กซ์แบบไม่ป้องกัน
เขาไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีเชื้อไวรัส HPV
เขาเป็นหูดหงอนไก่
เขามีเซ็กซ์ระหว่างมีประจำเดือนกับคุณ
คุณไม่ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV

“มล” เรียนเก่งมาตั้งแต่เด็ก และเป็นผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียว เธอเคยแอบรักหนุ่มเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งตั้งแต่เรียนมัธยมต้น เวลาผ่านไปจน 10 ปีและแล้วลมก็พัดหวนทำให้มาเจอผู้ชายที่เธอเคยแอบรักอีกทีตอนเธอเรียนปริญญา เอกที่เมืองนอก และการพบกันครั้งนี้ก็กลายเป็นเรื่องราวมากมายที่เกือบเปลี่ยนทั้งชีวิตของ เธอ
รักฝังใจตั้งแต่เด็ก

เธอกับเขาเจอกันเพราะเขาบินข้าม รัฐ มาหาให้เธอช่วยเขาทำรายงานให้ เธอว่าทั้งเต็มใจและรายงานชิ้นนั้นหมูมากสำหรับเธอ แล้วทั้งคู่ก็เป็นแฟนกัน แต่คบกันไม่นานเธอก็แอบรู้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่น เขาอีเมล์หาผู้หญิงคนอื่นในคืนที่อยู่กับเธอ เธอขอเลิกเด็ดขาด แต่เขาง้อสุดใจจนเธอใจอ่อน หลังจากนั้นก็ทำให้เธอค้นพบว่าจากลูกคุณหนูแบบเขา ตอนนี้กลายเป็นอีกคน เธอต้องช่วยพาเขาหนีตำรวจ ต้องช่วยเขาออกจากแก๊งค้ายา ยอมขับรถข้ามคืนไปชิงตัวเขาออกมาจากเมืองนรก ช่วยให้เขาเลิกยา และทำทุกทางให้เขามีชีวิตใหม่ที่เมืองไทยให้ได้ แต่พอเขากลับถึงเมืองไทย คนแรกที่เขาไปหาคือผู้หญิงคนอื่น!!!

เซ็กซ์ครั้งเดียวกับเขา ทำให้เธอ “ท้อง”

หลัง จากนั้นไม่กี่เดือน ตอนเธอกลับมาเมืองไทยเพราะเขาบอกว่าจะบวช อยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เธอถึงรู้ตัวว่า “ท้อง” เธอโทรบอกเขา คำแรกที่เขาพูดคือ “ว่าแล้ว” เธอย้อนกลับไปคิดทันทีว่าต้องเป็นครั้งแรกที่เธอมีอะไรกับเขาแบบไม่ตั้งใจ แน่ๆ (น้ำองุ่นแดงเป็นเหตุ) คิดได้แค่นี้เธอก็นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว “สุดท้ายเขาไปกราบเท้าแม่เขา สารภาพว่าทำเราท้อง อีกหลายวันผ่านไปเขาโทรมาบอกว่าโอเค เราแต่งงานกัน แต่เขาไม่เคยบอกรักเราเลยนะ เหมือนเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เราคิดว่าถ้าเลือกได้เขาคงไม่อยากแต่งงานกับเราก็ได้ เพราะใจจริงแล้วเราเองก็ไม่ต้องการสามีที่เที่ยวผู้หญิงและมั่วหญิงแบบนี้”
ถึงแต่งงาน เขาก็ยังมีคนอื่นเรื่อยๆ

ตอน มลท้องได้ 5 เดือนเขายังไปเที่ยวผู้หญิง ก็บอกเขาว่ารับไม่ได้นะ โรคมันเยอะ สกปรก เธอจะเอาโรคมาติดฉัน สัญญาได้ไหม เขาก็บอกว่า “ก็ได้” แต่ก็เป็นสัญญาปากเปล่าเหมือนเคย!!! แต่เพราะรักลูกเธอเลยทำได้แค่ปิดหูปิดตามาโดยตลอด หลังคลอดลูกได้ไม่ถึงปีเธอต้องกลับไปเรียนต่อให้จบ หนึ่งปีนั้นเป็นช่วงเวลาพิสูจน์รักจากเขาด้วย “ใกล้กลับเมืองไทยจริงๆ เราก็บอกเขาว่าเรารู้สึกว่าเธอไม่ได้รักฉัน ฉันไม่อยู่เธอก็ไปเที่ยวกลางคืน ไปเที่ยวกับผู้หญิงคนนั้นคนนี้ เรารับไม่ได้ เรา แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น พอลูกโตได้สองขวบแม่เราก็เสีย ตอนนั้นเหมือนเป็นบ้า ไม่อยากคุยกับใคร ไม่อยากทำงาน ขออยู่นิ่งๆ แล้วก็ร้องไห้ เป็นอยู่เกือบปี จนมาเจอธรรมะ มีคนเอาหนังสือมาให้เราอ่าน ทำให้เราได้คิดว่าทำไมเราทำชีวิตตัวเองเหมือนถังขยะ คนที่อยู่รอบตัวเขาก็ไม่อยากเจอหรอกถังขยะ เราก็กลับมาเป็นคนใหม่ ลูกคนโตบอกอยากมีน้อง พ่อก็จัดให้ แล้วก็ติดจริงๆ แต่ตอนท้องลูกคนเล็กได้ 7 เดือนเราก็สังหรณ์ว่าเขาไปเที่ยวผู้หญิง แล้วก็เป็นความจริงอีกแล้ว!!!
ผ่านไปเกือบ 10 ปี จากเซ็กซ์ครั้งแรกกับเขา

หลัง คลอดลูกคนที่สองนี่เอง เธอก็มัวยุ่งแต่กับลูกๆ จนผิดนัดไม่ได้ไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกประจำปีหรือที่เรียกว่าแปปสเมีย ร์ (Pap Smear Test) แล้วเกือบ 1 ปีจากวันนั้นก็นึกได้ก็เลยไปตรวจ Pap Smear Test ตามที่คุณหมอทำคลอดเคยเน้นย้ำไว้ว่าเว้นไม่ได้แม้แต่ปีเดียว หลังจากได้ตรวจเจ้าหน้าที่โทรมาบอกผลว่าเซลส์ของคุณที่ปากมดลูกผิดปกติ จะนัดคุณหมอให้ด่วน “แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร รู้แค่ว่าจะนัดให้ด่วนที่สุด แต่พอไปตรวจต้องรอผลอีกสองอาทิตย์ เราอดใจรอขนาดนั้นไม่ไหว เลยโทรถามเพื่อนว่ามีอาจารย์หมอคนไหนเก่งๆ บ้าง ผลตรวจคือเซลส์ที่ปากมดลูกผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร หมอก็บอกว่าใจเย็นๆ ให้ตรวจเพิ่มก่อนว่าได้มีการติดเชื้อไวรัส HPVไหม”

หลัง ตรวจผลก็คือเธอติดเชื้อไวรัส HPV จริงๆ “ตอนนั้นหน้าเขาลอยขึ้นมาเลย แต่คุณหมบอกว่าเราอาจมีเชื้อมาก่อนก็ได้ เราก็ถามหมอกลับไปว่า…ไหนหมอบอกว่าติดได้ทางเพศสัมพันธ์อย่างเดียวไงคะ หมอเลยซักประวัติเรา ถามเราว่ามีเซ็กซ์ครั้งแรกอายุเท่าไหร่ เคยผ่านผู้ชายมากี่คน เราก็บอกคนเดียว ไม่มีพฤติกรรมสำส่อนค่ะ ทั้งชีวิตมีแฟนมาหลายคนแต่ไม่เคยมีอะไรกัน ถ้ามีเซ็กซ์ก็มีกับสามีคนเดียว ไม่ได้มั่ว ไม่ได้สูบบุหรี่ด้วย หมอบอกว่าช่วงนี้ให้เราดูแลตัวเองดีๆ ให้เราทานผักใบเขียวเยอะๆ ห้ามสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ (ถึงสามีจะแอบไปสูบบุหรี่ที่อื่นไม่ได้สูบต่อหน้า แต่ก็จะมีสารพิษจากควันที่ติดเสื้อผ้า ติดผิวหนังมาก สารพิษเหล่านี้ก็ทำให้เธอมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคร้ายแรงขึ้นได้) พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด เราบอกหมอไปว่าจะไม่เครียดได้ไงก็คิดเรื่องนี้อยู่ หมอก็บอกว่าไม่ได้นะ เราก็ร้องไห้เลย พอกลับบ้านบอกเขาว่าเราติดเชื้อไวรัส HPV เขาตบไหล่เราสองแปะแล้วไปหาลูก(ไม่แม้แต่จะกอดเพื่อปลอบใจ) แต่เราบอกเขาว่าครั้งหน้าคุณหมอให้เขาไปด้วย เขาก็โอเค”
เพราะลูกทำให้เธอยอม “สู้”
ผล ตรวจยืนยันว่าร่างกายเธอเคยได้รับ เชื้อไวรัสHPVมาก่อนหน้านี้ และร่างกายเธอสร้างภูมิกำจัดเชื้อไวรัสHPVออกไปเอง2-3ครั้งแล้ว แต่พอร่างกายอ่อนแอเชื้อไวรัสที่มีอยู่ในร่างกายก็จะกลับมาทำร้ายเราอีก “หมอบอกว่าเป็นรอยโรคเก่า ไม่ใช่ครั้งแรก ช่วงนี้ร่างกายเราอ่อนแอเชื้อก็จะกลับมาโจมตีเรา ถ้ามีอะไรกันแล้วเกิดเนื้อเยื่อบุฉีกขาด เชื้อจะฝังตัวในระดับเซลส์ เมื่อไหร่ที่ร่างกายอ่อนแอก็จะแย่ลง เนื้อเยื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่ดี พอมันพัฒนาปุ๊ปทีนี้จะมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งในเวลาต่อมาได้ แล้วหมอก็ขอความร่วมมือจากสามีว่าขอให้ลดละเลิกสูบบุหรี่ ถ้าอยากให้เราหายเขาต้องเลิกบุหรี่ เพราะตัวเขาก็เป็นพาหะนำโรคมีเชื้อไวรัสHPVอยู่ (เพราะคนที่สูบบุหรี่เปรียบเสมือนคนที่มีกาวที่จะจับเชื้อไวรัสHPVไว้กับตัว เขาได้มากกว่าคนอื่น และคนที่เป็น Second Hand Smoker ก็จะเหมือนคนสูบเองเพราะจะเหมือนมีกาวคอยจับเชื้อHPVไว้ได้มากกว่าคนอื่น เช่นกัน)

หมอบอกว่าอย่าใช้หมอฟรี ถ้าคนไข้กับคนรอบตัวคนไข้ไม่ร่วมมือด้วยก็ไม่มีประโยชน์ เขาก็บอกว่าจะพยายาม แต่พอกลับมาบ้านไม่เห็นพูดอะไร เราเลยเปิดใจคุยกัน เขาก็อธิบายถูกทุกอย่างตามที่หมออธิบายนะ แต่เขาก็ยังสูบบุหรี่เป็นว่าเล่น เขาก็บอกว่าเราพูดง่ายแต่เขาทำยากนี่ เขาสูบบุหรี่มาตั้งแต่เด็กๆก่อนที่เราจะแต่งงานกัน เราฟังแล้วเจ็บปวดนะ แล้วเราก็ถามว่ารู้ไหมว่าเราติดโรคนี้เพราะใคร เขาบอกไม่รู้ เราบอกว่าโรคนี้ติดทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น ฉันไม่ได้ไปนอนกับใคร เขาชี้หน้าเราแล้วพูดว่า รู้ได้ไงว่าติดมาจากฉัน เหมือนเราโดนตบหน้าอย่างแรง ถ้าเราเป็นผู้ชายเราคงชกหน้าเขาไปแล้ว เราโกรธมาก แต่พูดกันยังไม่ทันจบดีก็ต้องพาลูกไปแอดมิดที่โรงพยาบาลตอนตีสอง”
ต้องรักษาทุกทาง และช่วยคนอื่นด้วย

ช่วง นั้นเธอศึกษาข้อมูลไวรัส HPV ทุกทาง แล้วก็ค้นพบว่า “ผู้ชายเป็นพาหะนำโรคแต่ไม่แสดงอาการ ติดแล้วไม่เป็นไร แต่ผู้หญิงติดเชื้อไวรัส HPV แล้วพัฒนาจนกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ ภรรยาส่วนใหญ่ก็ไม่เคยรู้หรอกว่าสามีเคยนอนกับใครมาบ้างและได้เอาเชื้อโรค อะไรติดตัวมาฝากบ้าง เพราะบางโรคมันเป็นโรคเงียบ (Silent Disease) ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวว่าต้องให้ความรู้คนอื่น จะหายไม่หายไม่รู้ จะตายเมื่อไหร่ไม่รู้ แต่จะต้องทำให้ชีวิตัวเองให้มีค่ามากที่สุดก่อนตาย จะทำทุกวิถีทางที่จะให้ความรู้กับผู้หญิง ให้ผู้หญิงได้ตระหนักรู้ถึงความร้ายกาจของเชื้อไวรัส HPV และวิธีป้องกันตัวเอง เพราะโรคมะเร็งปากมดลูกไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม แต่เกิดจากเชื้อไวรัส HPV เท่านั้น”

สุดท้ายหลังทั้งคู่ยอมลดทิฐิ เปิดใจคุยกับจิตแพทย์ ก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น และตอนหลังคุณหมอก็เรียกสามีเธอเข้าไปตรวจร่างกายเพราะเขาบอกว่ามีติ่งเล็กๆ ที่คิดว่าเป็นกระเนื้อแล้วจี้ออกตั้งแต่ตอนอยู่เมืองนอก แต่ก็ขึ้นใหม่ตลอด จนเขาสงสัย “คุณหมอบอกว่าใช่แล้วค่ะ นี่คือหูดหงอนไก่ หมอสั่งว่าห้ามนอนกับภรรยาเด็ดขาดจนกว่าจะหาย เพราะเขาเป็นทีอัณฑะ”

ทุก วันนี้เธอเขียนบล็อกให้ผู้หญิง ทุกคนระวังตัว “เราไม่แคร์หรอกว่าจะต้องบอกคนอื่นว่าเราเป็นอะไร อย่างตอนแรกที่เราคุยเรื่องนี้ใครๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอเราบอกว่าตัวเรานี้แหละติดเชื้อ HPVนะ คนอื่นเช่น รุ่นน้องหรือเพื่อนๆก็กล้าเปิดใจว่าเขาก็ติดเชื้อนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีใครกล้าบอก เราก็บอกว่าจะอายทำไม ถ้าฉันสำส่อนสิจะอาย แต่นี่คนเข้าใจผิดกันว่าคนติดเชื้อไวรัส HPV เกิดจากสำส่อน เปลี่ยนคู่นอนหลายๆ คน จริงๆ แล้วไม่จำเป็น เราอาจตกเป็นผู้โชคร้ายจากโรคที่ระคายเคืองเล็กๆ น้อยๆ จนถึงโรคมะเร็งที่ปลิดชีวิตเราได้ อย่าคิดว่าผู้ชายที่ดูท่าทางสะอาดสะอ้านจะไม่นำโรคร้ายมาฝาก”

เพราะ กำลังใจที่ดีมาก และการเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างตั้งแต่อาหารการกิน สภาพจิตใจ การออกกำลังกาย ทำให้อาการของเธอดีขึ้นเรื่อยๆ วันที่เราเจอกันหน้าตาเธอดูสดใสมาก จนไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอผ่านเรื่องร้ายๆ มาขนาดนั้น ตอนนี้เธอหายแล้ว…เซลส์ที่เคยผิดปกติไปกลับมาปกติเหมือเดิมแล้ว โชคดีว่ารู้ตัวเร็วและรักษาทุกวิถีทาง และยังใช้ประสบการณ์ตัวเองบอกต่อคนอื่นอย่างไม่หยุดยั้งด้วย
HPV คืออะไรกันแน่?

HPV = Human Papillomavirus เป็นไวรัสที่พบได้ทั่วไปเหมือนเชื้อหวัด ติดเชื้อได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงผ่านการสัมผัส ตั้งแต่มีเพศสัมพันธ์ สัมผัสผิวหนัง ยิ่งถ้ามีรอยถลอกหรือเป็นแผลตรงจุดที่สัมผัสก็ยิ่งทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ง่ายขึ้น

HPV มีประมาณ 200 สายพันธุ์ อาจทำให้ติดเชื้อในส่วนต่างๆของร่างกายแล้วกลายเป็น หูดงอนไก่ที่มือ เท้า ริมฝีปาก ทวารหนัก หรือขึ้นทั้งตัว

มี HPV ประมาณ 15 สายพันธุ์เป็นชนิดที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยเฉพาะชนิดที่16 หรือ 18 เป็นสาเหตุหลักประมาณ 70% ของมะเร็งปากมดลูก ถ้าเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศแล้วร่างกายสร้างภูมิกำจัดไม่ได้ เซลล์เยื่อบุผิวปากมดลูกจะผิดปกติ ถ้าตรวจไม่พบเชื้อและไม่ได้รักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เซลล์ผิดปกติที่ว่าก็จะพัฒนากลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้ในที่สุด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจใช้เวลา 2-10 ปี แต่บางเคสอาจเกิดขึ้นภายใน 1 ปีก็ได้
การติดเชื้อ HPV มาจาก…

เชื้อ HPV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีโอกาสพัฒนาเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกค่อนข้างสูง ช่วงแรกๆ ที่เป็นอาจจะมีอาการแค่ “หูด” (หงอนไก่) ขึ้นที่อวัยวะเพศของผู้ชายหรือผู้หญิง แต่เชื้อไวรัส HPV ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา

การติดเชื้อ อาจเกิดจากผู้ชายที่เคยมีเซ็กซ์และได้รับเชื้อมาจากคู่นอนที่อาจนำเชื้อ HPV ติดตัวมาด้วยโดยไม่แสดงอาการ ถ้าเขามีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปก็จะนำเชื้อ HPV มาให้ผู้หญิงอีกคนที่นอนด้วย ถึงแม้เธอจะไม่เคยมีเซ็กซ์กับใครมาก่อน การมีเซ็กซ์กับเขาครั้งเดียวก็ติดเชื้อ HPV ได้แล้ว

อาการของโรค ผู้หญิงที่ติดเชื้อ HPV จะไม่แสดงอาการอะไรเลยในระยะแรก ถ้าไม่ได้ตรวจพบความผิดปกตินี้ตั้งแต่แรก เชื้ออาจเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ปากมดลูก และพัฒนากลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคตได้

วิธีป้องกัน

ต้องหาผู้ชายที่ซื่อสัตย์ไม่เคยมีเซ็กซ์กับใครมาทั้งชีวิต (ไม่น่าจะหาเจอง่ายๆ)

ฉีด วัคซีนป้องกัน HPV ได้ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี (ฉีด 3 เข็มต่อเนื่อง) แต่วัคซีนไม่ได้ช่วยได้ 100% เพราะป้องกันโรคที่ติดเชื้อ HPV ได้บางสายพันธุ์เท่านั้น และไม่ได้ช่วยรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อ HPV ที่ร่างกายมีมาก่อนหน้านั้นแล้ว คนที่จะฉีดวัคซีน HPV ให้ได้ผลดีที่สุดคือ ต้องฉีดก่อนได้รับเชื้อ HPV หรือก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกด้วยซ้ำ และตอนนี้ต่างประเทศมีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายแล้ว

ลดความเสี่ยงด้วยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กับคู่นอนหรือสามี

ตรวจ ร่างกายหาการติดเชื้อไวรัส HPV ทุกปี ด้วยกายตรวจคัดกรอกมะเร็งปากมดลูก หรือ แปปสเมียร์ (Pap Smear) จะช่วยตรวจหาเซลล์มะเร็งและเซลล์ที่ผิดปกติในระยะก่อนเป็นมะเร็งได้
วิธีรักษา
พยายามอย่าเครียด
กินผักใบเขียวเยอะๆ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาหารที่ทาน
ออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง เป็นการสร้างภูมิต้านทานไวรัส
ห้ามสูบบุหรี่เด็ดขาด และอย่าอยู่ในบริเวณที่มีการสูบบุหรี่
ให้ผู้ชายสวมถุงยางทุกครั้งที่มีเซ็กซ์ด้วยกัน
ถ้าเจอเซลล์ผิดปกติสามารถรักษาได้ด้วยการจี้เย็น การตัดปากมดลูก

Did You Know…?

มี ผู้หญิงไทยไม่ถึง 10% เท่านั้นที่เคยตรวจแปปสเมียร์ ทั้งที่เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มาก และรักษาได้ถ้าตรวจเจอเชื้อมะเร็งในระยะเริ่มต้น

องค์กรอนามัยโลก (WHO) ประกาศเมื่อปีที่แล้วว่า น่าจะมีผู้ติดเชื้อ HPV ทั่วโลกมากกว่า 630 ล้านคน (9-13%)

แต่ละปีจะมีสาวไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 6,500-7,000 คน และ 40-50% จะเสียชีวิต

ผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกตายวันละ 7-8 คน

ขอบคุณข่าวจาก cleothailand.com

ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/70630.html

แทบช็อก!! เศรษฐีสลับตัวกับยาจก 60 ปี พอมารู้ความจริงเพราะเรื่องแบบนี ทำเอารับไม่ได้จริงๆ


เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2015 เว็บไซต์ koreaboo.com ได้รายงานเรื่องราวชีวิตของชาย 2 คนที่ต้องชะตาพลิกผันเหมือนในนิยาย หลังถูกทางโรงพยาบาลสลับตัวผิดครอบครัวนับตั้งแต่เกิด!

ทั้ง คู่คลอดในเวลาที่ห่างกัน 13 วินาที ที่โรงพยาบาลในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น แต่แล้วเจ้าหน้าที่กลับทำพลาด นำเอาลูกชายคนโตของครอบครัวที่ร่ำรวยมอบให้แก่ครอบครัวที่ยากจน ส่วนลูกชายคนเล็กของครอบครัวที่ยากจนกลับถูกสลับไปอยู่กับครอบครัวที่ร่ำรวย แทน

นั่นทำให้ชีวิตของเด็กที่อยู่กับครอบครัวที่ยากจนต้อง ประสบกับความยาก ลำบาก ใช้ชีวิตอย่างบากบั่นมาตลอด 60 ปี ขณะที่อีกฝ่ายเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแสนสะดวกสบาย เรียนจบมหาวิทยาลัยดี ๆ และมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นของตัวเอง

แต่แล้วความจริงมาปรากฏในที่สุด หลังจากน้อง ๆ ของครอบครัวที่ร่ำรวยขอตรวจดีเอ็นเอของพี่ชาย เพราะรู้สึกว่าพี่ชายคนโตมีใบหน้าที่แตกต่างไปจากพวกเขา ก่อนจะพบว่าพี่ชายที่แท้จริงของเขาถูกสลับตัวไปเนื่องจากความผิดพลาดของโรง พยาบาลเมื่อ 60 ปีก่อน

ที่มา : สยามอัพเดท